หนังสือท่องเที่ยว The Pride of Thais and Africans เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บริษัท ที.วี.อาลาคาร์ต จำกัด โดย อวัสดา ปกมนตรี กรรมการผู้จัดการ ร่วมกับ สถานกงสุลแห่งราชอาณาจักรเลโซโทประจำประเทศไทย จัดงานเปิดตัวหนังสือท่องเที่ยว The Pride of Thais and Africans เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย และภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ โดยมี ศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในงาน นอกจากนี้ยังมีเหล่าเซเลบแม่ลูกสุดฮอตที่แต่งตัวในธีมเจ้าป่ามาสร้างสีสัน อาทิ ชัชนิต มุสิกไชย และน้องอเล็กซานดร้า อรณพ มหาคุณ, พัชรี รักษาวงศ์ และน้องเบเนดิกต์, ธรรศจรส เอวาสี และน้องอาณิชน์ พุสวานิ ณ เกล็น บาร์ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ
อวัสดา ปกมนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.วี.อาลาคาร์ต จำกัด ในฐานะบรรณาธิการหนังสือท่องเที่ยว The Pride of Thais and Africans กล่าวถึงที่มาของหนังสือเล่มนี้ “เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2557 อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ และเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระองค์ผ่านโครงการหลวงต่างๆ อาทิ ทรงโปรดเผยแพร่องค์ความรู้ด้านเกษตรแบบผสมผสานให้กับประเทศเลโซโท เมื่อครั้ง ฉลองการขึ้นครองราชย์ครบ 60 ปี สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งราชอาณาจักรเลโซโท ได้เสด็จร่วมงานด้วย หลังจากนั้นได้เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ไปยังภาคเหนือ เพื่อเยี่ยมชมโครงการหลวงที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเห็นว่าประเทศไทย และประเทศเลโซโทเป็นประเทศเกษตรกรรมเช่นเดียวกัน และทรงได้ขอพระราชทานนำทฤษฎีการเกษตรแบบผสมผสานไปใช้ที่เลโซโท เพราะเลโซโทสามารถผลิตอาหารได้เพียง 1 ใน 3 ของความต้องการทั้งหมด ที่เหลือต้องนำเข้าจากประเทศอื่นๆ และถ้าเกษตรแบบผสมผสานสามารถใช้ได้จริง เลโซโทจะสามารถผลิตอาหารเองได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในหลวงทรงอนุญาต และให้ความสนับสนุนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบุคลากร วิชาการ เงินทุน อุปกรณ์ รวมถึงการส่งวิทยากรไปฝึกอบรมให้กับนักวิชาการ และเกษตรกรที่เลโซโท โดยพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 ได้พระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ จำนวน 40 ไร่ ให้ทดลองทฤษฎีการเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งตอนนี้การทดลองได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และกำลังขยายไปยังส่วนต่างๆ ของเลโซโท และในพื้นที่ดังกล่าว ยังมีห้องจัดแสดงพระอัจฉริยภาพของในหลวงที่สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทั้งปี นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของการทำปุ๋ยหมักที่ทรงส่งวิทยากรไทยไปสอนวิธีทำปุ๋ยหมักแทนการใช้ปุ๋ยเคมี สามารถช่วยเกษตรกรชาวเลโซโทประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกมาก และมีผลผลิต ที่ดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น รวมถึงโครงการพระดาบสที่สวาซิแลนด์ในส่วนของการเพาะเห็ด ซึ่งเป็นโครงการสนองพระราชดำริของพระราชชนนี Indlovukazi แห่งราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ เพื่อพัฒนาการเพาะเห็ดให้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งรายได้สำหรับเกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มสตรี อีกด้วยโดยหนังสือเล่มนี้ จะจัดทำพิเศษขึ้นใหม่อีก 3 ชุด เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งราชอาณาจักรเลโซโท และสมเด็จพระราชาธิบดีสวาติที่ 3 แห่งราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ในลำดับต่อไป”
หนังสือท่องเที่ยว The Pride of Thais and Africans เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ 4 สี 120 หน้า หน้าปกเป็นกระดาษอาร์ตการ์ด ส่วนเนื้อในเป็นกระดาษอาร์ตมัน 130 แกรม ซึ่งจัดพิมพ์ทั้งหมดจำนวน 3,000 เล่ม เนื้อหาภายในแบ่งเป็น 4 ส่วนด้วยกัน Chic & Chill Destinations เป็นข้อมูลในการแนะนำประเทศไทย นำเสนอผ่าน 10 จังหวัดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, เชียงราย, เชียงใหม่, อุดรธานี, ชลบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, พังงา, กระบี่ และภูเก็ต The Pride of Thais and Africans เรื่องราวความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของประเทศไทย และภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ ผ่านพระราชไมตรีอันดีระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเลโซโท และกษัตริย์แห่งสวาซิแลนด์ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศแอฟริกาใต้ The Royal Project โครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวในหลายจังหวัดที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของไทย และโครงการในพระราชดำริ ที่ได้ทรงส่งไปช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ อาทิ โครงการเศรษฐกิจพอเพียง ที่ประเทศเลโซโท และโครงการพระดาบสที่ประเทศสวาซิแลนด์ และส่วนสุดท้าย Travel Tips of Thailand ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย
หนังสื่อท่องเที่ยว The Pride of Thais and Africans จะนำไปแจกที่ภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ โดยเฉพาะ 3 ประเทศหลัก ได้แก่ ราชอาณาจักรเลโซโท ราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ และสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เพื่อ ให้นักท่องเที่ยวแอฟริกาตอนใต้ได้รู้จักคนไทย เมืองไทย และสามารถช่วยให้ท่องเที่ยวเมืองไทยได้ง่าย และสะดวกขึ้น
ที่มา : http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9570000143857